ดีพร้อม ผลักดันเอสเอ็มอีไทย เชื่อมโอกาสคู่ค้าภาครัฐคาดการณ์เงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านล้านบาท
กรุงเทพฯ 21 กรกฎาคม 2564 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม กระทรวงอุตสาหกรรม
เดินหน้าผลักดันนโยบายสร้างเสริมศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจทั่วประเทศ ผ่านการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยในโครงการ Made in Thailand เดินหน้าเร่งส่งเสริมการบริโภคสินค้าภายในประเทศ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งสู่ระบบเศรษฐกิจ ผ่านกลไกของการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ สร้างแต้มต่อผู้ประกอบไทยฝ่าวิกฤตโควิด -19 รวมทั้งเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการสินค้าไทยให้สามารถเข้าสู่การรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ผ่านโครงการยกระดับผู้ประกอบการสินค้าไทยให้ดีพร้อม เริ่มสมัครตั้งแต่วันนี้ – 25 ก.ค.นี้ คาดเงินหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 1 ล้านล้านบาท
“นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังได้ริเริ่มจัดทำ โครงการยกระดับผู้ประกอบการสินค้าไทยให้ดีพร้อม เพื่อพัฒนา
เตรียมความพร้อมและยกระดับผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชนไทย เข้าสู่การรับรอง Made in Thailand ควบคู่กับการเพิ่มผลิตภาพให้ธุรกิจมีศักยภาพยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมทั้งหมดจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทุกประเภท ทุกระดับ ให้ได้รับทราบและมีโอกาสเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ ผ่าน 3 ช่องทางที่สำคัญ ได้แก่การรับรอง Made in Thailand (MiT) โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การขึ้นทะเบียนวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม Thai SME-GP ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการขึ้นบัญชีสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Thai GPP ของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดภายใต้ภาวะวิกฤตโควิด-19 และนำทางผู้ประกอบการไทยให้สามารถเข้าถึงช่องทางการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่ามหาศาล”นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
เดินหน้าผลักดันนโยบายสร้างเสริมศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจทั่วประเทศ ผ่านการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยในโครงการ Made in Thailand เดินหน้าเร่งส่งเสริมการบริโภคสินค้าภายในประเทศ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งสู่ระบบเศรษฐกิจ ผ่านกลไกของการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ สร้างแต้มต่อผู้ประกอบไทยฝ่าวิกฤตโควิด -19 รวมทั้งเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการสินค้าไทยให้สามารถเข้าสู่การรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ผ่านโครงการยกระดับผู้ประกอบการสินค้าไทยให้ดีพร้อม เริ่มสมัครตั้งแต่วันนี้ – 25 ก.ค.นี้ คาดเงินหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 1 ล้านล้านบาท
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันส่งผลให้การใช้จ่ายและกำลังซื้อของภาคเอกชนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงเร่งขับเคลื่อนแนวคิดในการนำเงินส่วนงบประมาณของภาครัฐ หรือ Government Spending ที่มีมูลค่าราว 1.77 ล้านล้านบาทต่อปี ให้มาเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ผ่านการประกาศใช้กฎกระทรวง กำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ที่ได้กำหนดให้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ หรือ Made in Thailand (MiT) พัสดุที่จัดทำขึ้นหรือจำหน่ายโดยผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ Thai SME-GP และพัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Thai GPP เป็นพัสดุที่หน่วยงานรัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
ทั้งนี้ จากนโยบายดังกล่าวจึงเกิดเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผลักดันการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย
หรือ “Made in Thailand” สำหรับผู้ประกอบการไทยให้มีโอกาสได้เป็นคู่ค้ากับภาครัฐ ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโอกาสและประโยชน์ที่ผู้ประกอบการไทยจะได้รับจากการค้าขายกับภาครัฐ จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เร่งดำเนินการผลักดันผู้ประกอบการทั่วประเทศในเชิงรุก ทั้งการแนะนำ ประชาสัมพันธ์และส่งต่อผู้ประกอบการเข้าสู่การรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการผ่านการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand ไปแล้วกว่า 1,800 รายจำนวนกว่า 10,000 รายสินค้า“ดีพร้อม ในฐานะองค์กรหลักในการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศ
ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นผู้ซื้อในฐานะหน่วยงานของรัฐ จึงได้เร่งผลักดันกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ภายใต้แผนงานบูรณาการส่งเสริมผู้ประกอบการเข้ารับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand (MiT) ของ ส.อ.ท. โดยได้สั่งการให้หน่วยงานทั้งส่วนกลางและศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ พิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้เข้ารับรองกับทาง ส.อ.ท. ขณะเดียวกัน ดีพร้อม ยังได้นำร่องเริ่มต้นใช้เกณฑ์การคัดเลือกเข้าสู่ระบบการจัดซื้อจ้างของภาครัฐที่มีสินค้าตรงตามเงื่อนไข โดยผู้ประกอบการต้องผ่านการรับรองและได้รับตราสัญลักษณ์Made in Thailand เรียบร้อยแล้ว อีกทั้ง ยังได้กระจายนโยบายดังกล่าวไปยังศูนย์ภาคทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศในการประกาศใช้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามประกาศกฎกระทรวงการคลัง เรื่องกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเป็นคู่ค้ากับภาครัฐเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
หรือ “Made in Thailand” สำหรับผู้ประกอบการไทยให้มีโอกาสได้เป็นคู่ค้ากับภาครัฐ ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโอกาสและประโยชน์ที่ผู้ประกอบการไทยจะได้รับจากการค้าขายกับภาครัฐ จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เร่งดำเนินการผลักดันผู้ประกอบการทั่วประเทศในเชิงรุก ทั้งการแนะนำ ประชาสัมพันธ์และส่งต่อผู้ประกอบการเข้าสู่การรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการผ่านการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand ไปแล้วกว่า 1,800 รายจำนวนกว่า 10,000 รายสินค้า“ดีพร้อม ในฐานะองค์กรหลักในการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศ
ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นผู้ซื้อในฐานะหน่วยงานของรัฐ จึงได้เร่งผลักดันกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ภายใต้แผนงานบูรณาการส่งเสริมผู้ประกอบการเข้ารับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand (MiT) ของ ส.อ.ท. โดยได้สั่งการให้หน่วยงานทั้งส่วนกลางและศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ พิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้เข้ารับรองกับทาง ส.อ.ท. ขณะเดียวกัน ดีพร้อม ยังได้นำร่องเริ่มต้นใช้เกณฑ์การคัดเลือกเข้าสู่ระบบการจัดซื้อจ้างของภาครัฐที่มีสินค้าตรงตามเงื่อนไข โดยผู้ประกอบการต้องผ่านการรับรองและได้รับตราสัญลักษณ์Made in Thailand เรียบร้อยแล้ว อีกทั้ง ยังได้กระจายนโยบายดังกล่าวไปยังศูนย์ภาคทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศในการประกาศใช้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามประกาศกฎกระทรวงการคลัง เรื่องกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเป็นคู่ค้ากับภาครัฐเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
“นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังได้ริเริ่มจัดทำ โครงการยกระดับผู้ประกอบการสินค้าไทยให้ดีพร้อม เพื่อพัฒนา
เตรียมความพร้อมและยกระดับผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชนไทย เข้าสู่การรับรอง Made in Thailand ควบคู่กับการเพิ่มผลิตภาพให้ธุรกิจมีศักยภาพยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมทั้งหมดจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทุกประเภท ทุกระดับ ให้ได้รับทราบและมีโอกาสเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ ผ่าน 3 ช่องทางที่สำคัญ ได้แก่การรับรอง Made in Thailand (MiT) โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การขึ้นทะเบียนวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม Thai SME-GP ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการขึ้นบัญชีสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Thai GPP ของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดภายใต้ภาวะวิกฤตโควิด-19 และนำทางผู้ประกอบการไทยให้สามารถเข้าถึงช่องทางการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่ามหาศาล”นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
โครงการยกระดับผู้ประกอบการสินค้าไทยให้ดีพร้อม เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 25 กรกฎาคม 2564
ผ่าน https://forms.gle/x7DoGfkka21GSLcq6 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 08 1807 1127 และ 08 9815 6597 หรือติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/dbcd.diprom และ www.dip.go.th
ผ่าน https://forms.gle/x7DoGfkka21GSLcq6 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 08 1807 1127 และ 08 9815 6597 หรือติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/dbcd.diprom และ www.dip.go.th
ไม่มีความคิดเห็น