มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ เผยโฉมใหม่ ด้วยนวัตกรรมการออกแบบและบริการระดับพรีเมียม


25 พฤศจิกายน 2567 -  โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ หนึ่งในสัญลักษณ์ของความหรูหราแห่งกรุงเทพมหานคร ได้เปิดตัวโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิดการพัฒนานวัตกรรมการออกแบบและการบริการที่มุ่งตอบสนองความต้องการของนักเดินทางระดับไฮเอนด์ ด้วยความตั้งใจในการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับโรงแรมระดับ 5 ดาว สะท้อนถึงความหรูหราและความทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมที่กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤตโควิด-19


มร.ทิม เทด (Mr. Tim Tate) ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ได้กล่าวถึงการพลิกโฉมครั้งสำคัญว่า “การปรับปรุงโรงแรมครั้งนี้มุ่งตอบสนองตลาดธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาวที่กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤตโควิด-19 โดยเน้นยกระดับประสบการณ์การบริการในมิติใหม่ ทั้งด้านการกินดื่ม การส่งเสริมสุขภาพ (Wellness) และความยั่งยืน (Sustainability) เพื่อตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความทันสมัย”

ธุรกิจฮอลปิตัลลิตี้ไทย “ฟื้นตัว+สตรอง”

"ธุรกิจบริการต้อนรับในประเทศไทย หรือ 'ธุรกิจฮอสปิตัลลิตี้' ได้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจนใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมระดับพรีเมียมทั่วประเทศมีการเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งในกลุ่มนักเดินทางรายบุคคลและตลาด MICE (Meetings, Incentives, Conferences, and Exhibitions) สำหรับโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ จุดแข็งด้านทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการพักผ่อนใกล้สถานที่สำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และศูนย์การค้าไอคอนสยาม"

นอกจากนี้ มร.เทดยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "แนวโน้มธุรกิจโรงแรมยังคงสดใส ด้วยการเติบโตของอัตราการจองห้องพักที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่าเชิงประสบการณ์ (Experiential Value) โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ จึงได้ปรับพื้นที่และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวในด้าน Wellness และการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและครอบคลุมทุกมิติสำหรับแขกผู้มาเยือน"


รีโนเวตโรงแรมเพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน

"โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ มีความได้เปรียบทั้งด้านคุณภาพและทำเลที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญ อีกทั้งเรายังคงเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2549 เพื่อรักษาความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของตลาด โดยล่าสุด โรงแรมได้ลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาทในการปรับปรุงครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการรีโนเวทห้องพัก 533 ห้อง การพัฒนาพื้นที่ต้อนรับและห้องอาหาร รวมถึงการเปิดตัว ALE House สปอร์ตบาร์ริมแม่น้ำ และการปรับปรุงฟิตเนสเซ็นเตอร์บนชั้น 4"


มร.เทดยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "โรงแรมเปิดตัว Executive Lounge และ The Hilton Commune ซึ่งเป็นพื้นที่ประชุมสไตล์ที่พักอาศัยที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย การปรับปรุงเหล่านี้ช่วยเสริมให้โรงแรมสามารถตอบสนองความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของแขกผู้เข้าพักในด้านความสะดวกสบาย การเชื่อมต่อ (Connectivity) และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจบริการระดับพรีเมียมในกรุงเทพฯ"


เปิดตัว OXBO : Dining Detonation ระดับพรีเมียม พร้อมปรัชญา Farm-to-Fork

การพลิกโฉมโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ยังครอบคลุมถึงการเปิดตัวร้านอาหาร OXBO Bangkok บนชั้น 3 ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการปลายเดือนพฤศจิกายน 2567

OXBO Bangkok จะเป็นร้านแรกของฮิลตันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ดำเนินงานภายใต้ปรัชญา "Bound by Nature" ซึ่งเน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและการผลิตที่ยั่งยืน ด้วยความจุจำนวน 70 ที่นั่ง ร้านนี้นำเสนอเทคนิคการทำอาหารที่ล้ำสมัย พร้อมวัตถุดิบคุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เช่น เขาใหญ่ เชียงราย สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ รวมถึงสมุนไพรจากสวนบนดาดฟ้าของโรงแรม


มร.เทด กล่าวถึงแนวคิด Farm-to-Fork ของร้าน OXBO ว่า “การใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่ยั่งยืนช่วยยกระดับคุณภาพและรสชาติของอาหาร พร้อมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของฮิลตันในด้านความยั่งยืน”

ร้าน OXBO ยังโดดเด่นด้วยครัวเปิดที่ให้แขกได้สัมผัสประสบการณ์การปรุงอาหารของเชฟ และเมนูหลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล และผักสด พร้อมเครื่องดื่มไวน์กว่า 100 แบรนด์ และคอลเลคชันจินกว่า 30 ชนิดจากทั่วโลก แขกยังสามารถสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่ตรงกับความชอบของตนเอง

มร.เทดกล่าวเสริมว่า “ที่ OXBO แขกจะได้สัมผัสประสบการณ์การกินดื่มที่ผสานความหรูหราและความเข้าถึงง่าย พร้อมเพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และการสร้างประสบการณ์แบบมีส่วนร่วมที่เป็นเอกลักษณ์ของฮิลตันในระดับโลก”

มุ่งสู่อนาคต ด้วยบริการที่สร้างสรรค์ 

นอกจากการพลิกโฉมโรงแรมและการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาใช้ โรงแรมยังยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยบริการรูมเซอร์วิสออนไลน์และระบบส่งข้อความผ่านมือถือ เพื่อการบริการที่รวดเร็วและสะดวกสบาย รองรับกลุ่มผู้ใช้ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น 


หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ "The Hilton Commune" ห้องประชุมล้ำสมัยสไตล์ที่พักอาศัยบนชั้น 2 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับการประชุมทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า เช่น ผนัง LED มินิแอมฟิเธียเตอร์ และจอ LED แบบไดนามิก พื้นที่นี้เหมาะสำหรับการประชุมที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และการระดมความคิด ในขณะที่ยังคงบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง สอดรับกับแนวโน้มพื้นที่ทำงานที่ไม่เป็นทางการแต่มีประสิทธิภาพ

มร.เทด กล่าวสรุปว่า “โรงแรมมุ่งมั่นผสมผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย และนวัตกรรม เพื่อมอบประสบการณ์ร่วมสมัยที่น่าจดจำสำหรับแขกผู้มาเยือนทุกท่าน”

ความยั่งยืนและการมีส่วนร่วมกับชุมชน

โรงแรมได้ดำเนินโครงการ “Bulk Amenities” เพื่อลดการใช้พลาสติกและวัสดุที่ใช้ครั้งเดียว พร้อมได้รับการยอมรับจากการใช้ไข่จากไก่ที่เลี้ยงแบบปลอดกรง 100% อีกทั้งยังร่วมมือกับมูลนิธิไทยเอสโอเอส (SOS Foundation) บริจาคอาหารส่วนเกินจากบุฟเฟต์เพื่อจัดทำมื้ออาหารให้กับชุมชนผู้ด้อยโอกาส โดยในปี 2567 เพียงปีเดียว โรงแรมได้เปลี่ยนอาหารกว่า 3,000 กิโลกรัมเป็นมื้ออาหารเพื่อชุมชน


มร.เทดกล่าวเพิ่มเติมว่า “ฮิลตันขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์เพื่อความยั่งยืน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่น ลดขยะอาหาร ไปจนถึงสนับสนุนโครงการชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและให้คุณค่ากับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ”

อนาคตที่สดใสของการเติบโตและนวัตกรรม

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต มร.เทด คาดการณ์ว่า โรงแรมจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ประจำปีที่มั่นคงและอัตราการเข้าพักสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายและยกระดับ พร้อมทั้งทำเลที่ตั้งเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมอบประสบการณ์หรูหราและใกล้ชิดวัฒนธรรมไทยอย่างลงตัว


“โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการพัฒนาเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การพักผ่อน การพลิกโฉมครั้งใหญ่นี้ไม่เพียงชุบชีวิตให้กับมรดกของแบรนด์ฮิลตัน แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจโรงแรมระดับพรีเมียมในประเทศไทย”

 “การต้อนรับแขกด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและหลากหลาย ยืนยันถึงบทบาทของโรงแรมในฐานะผู้นำตลาดการเดินทางสุดหรูในกรุงเทพฯ พร้อมส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจ เชื่อมโยงชุมชน และขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง” มร.เทดกล่าวสรุป

ไม่มีความคิดเห็น

รูปภาพธีมโดย mevans. ขับเคลื่อนโดย Blogger.