ททท. สร้างสีสันการท่องเที่ยว เอาใจสายเครื่องดื่ม ด้วยโครงการ "Thai Craft Destination: Sip & Journey"


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สร้างสรรค์โครงการ "Thai Craft Destination: Sip & Journey" มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เชิงลึก และยั่งยืน โดยเน้นผลิตภัณฑ์และประสบการณ์จากชุมชน ภายใต้แนวคิด "ดื่มด่ำรสชาติ สัมผัสเรื่องราว" ผ่านเครื่องดื่ม 5 ธีม ที่นักเดินทางสายคราฟต์ไม่ควรพลาด ได้แก่ Fresh Fruity, Herb & Healthy, Caffeine, Cocoa และ Sensation อันสะท้อนถึงวัตถุดิบและเรื่องราวท้องถิ่น พร้อมสร้างประสบการณ์และความรู้จากการท่องเที่ยว โดยสนับสนุนสินค้าและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะเส้นทางเกี่ยวกับเครื่องดื่ม (Craft Drink) ที่มีภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ยกระดับผลิตภัณฑ์และสินค้าเกษตรท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ชุมชน และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความหมายให้กับนักท่องเที่ยวผ่านการลงมือปฏิบัติจริง (Hands-on Experience). 

ตัวอย่าง 4 เส้นทางการท่องเที่ยวต้นแบบ เกี่ยวกับเครื่องดื่ม (Craft Drink) 

เส้นทางที่ 1 : สกลนคร – อุดรธานี "SENSATION" 

ดินแดนอีสานแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับ "Sensation" หรือความรู้สึกที่ดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มและประสบการณ์สร้างสรรค์หัตถกรรมท้องถิ่น นักดื่มจะได้ชิมไวน์จากองุ่นหลากสายพันธุ์ ที่ปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศและสภาพแวดล้อมเหมาะสม ในบรรยากาศสไตล์ Vineyard ได้เรียนรู้การผลิตตั้งแต่การปลูก คัดแยก หมัก บ่มในถังไม้โอ๊ค ที่มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว ไวน์ที่นี่ มีคุณภาพเทียบไวน์ต่างประเทศ ที่สำคัญ ไม่ควรพลาดสุราท้องถิ่น ผลผลิตของจังหวัดที่กลั่นออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ และเป็นความภาคภูมิใจของคนในท้องถิ่น

เส้นทางที่ 2 : น่าน – แพร่ "CAFFEIEN"

ภาคเหนือตอนบนของไทย พร้อมจะเผยมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมกาแฟและโกโก้แบบครบวงจรให้ได้ดื่มด่ำ เป็นเส้นทางสายกาแฟจากแหล่งปลูกคุณภาพทั่วประเทศ ทุกสายพันธุ์ สู่เครื่องดื่มที่มีรสชาติหลากหลาย ทั้งกาแฟสด และเมนูที่สร้างสรรค์ใหม่กลายเป็นเครื่องดื่มร่วมสมัย มีกิจกรรมที่ให้ความรู้ตั้งแต่การปลูก เก็บและคัดสรรเมล็ดกาแฟ จนถึงเทคนิคการคั่ว เป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับคอกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสวนกาแฟแต่ละแห่ง สร้างชื่อเสียงให้กาแฟท้องถิ่นไทย ดังไกลระดับโลก

เส้นทางที่ 3 : ชุมพร – ระนอง "COCOA-COFFEE"

เส้นทางสู่ภาคใต้ของไทยนี้ จะนำเราไปเจาะลึกสู่โลกของกาแฟโรบัสต้าและโกโก้ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนของการทำกาแฟ ตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการแปรรูปและชงกาแฟ การเยี่ยมชมแหล่งผลิตและแปรรูปโกโก้ “คาเฟ่โกโก้ ระนองช็อกโกแลต หรือ วิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง” เจ้าของรางวัล Safety Product และเป็นต้นแบบของการทำเกษตรยั่งยืน เราจะได้เห็นถึงความตั้งใจและพิถีพิถันในการผลิตวัตถุดิบคุณภาพ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแปรรูปโกโก้และกาแฟจากชุมชนท้องถิ่นที่ ศูนย์การเรียนรู้และคาเฟ่ริมทะเล "บ้านต้นไม้อวดชุม" ที่มอบทั้งความรู้ ความเพลิดเพลิน ท่ามกลางบรรยากาศความสวยงามของชายทะเลชุมพร 

เส้นทางที่ 4 : จันทบุรี "FRESH FRUIT" 

        “จันทบุรี” เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเป็น "ราชินีผลไม้" แห่งภาคตะวันออก จะมอบประสบการณ์ที่สดชื่นและมีชีวิตชีวา พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมย่านเมืองเก่า “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” ออกแบบทำเครื่องประดับที่มีชิ้นเดียวในโลกที่ “มีใจ สตูดิโอ” ตกแต่งกระเป๋าเสื่อกกจันทบูรให้ร่วมสมัย ที่ศูนย์เรียนรู้ประจำชุมชนริมน้ำจันทบูรกับ “iDear Chan Decoupage” และเยี่ยมชมสวนมะปี๊ดอินทรีย์ของสวนมะปี๊ด by ธนัท แหล่งผลิตมะปี๊ดผลไม้พื้นถิ่นเชิงเดี่ยวด้วยวิธีธรรมชาติ


โครงการนี้ จึงนับเป็นการใช้ Soft Power ด้าน Fashion & Craft เพื่อยกระดับต้นทุนทางวัฒนธรรมของไทยให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและสร้างรายได้ในระดับสากล

ไม่มีความคิดเห็น

รูปภาพธีมโดย mevans. ขับเคลื่อนโดย Blogger.