ผลิตภัณฑ์ทางทะเล ทงยอง เขย่าหัวใจเชฟหลักของโรงแรมหรูที่สุดในไทย



ผลิตภัณฑ์ทางทะเลจากเมืองทงยองสร้างความประทับใจแก่บริษัทผู้ซื้อไทย ในงานชิมอาหารจากความร่วมมือระหว่างเมืองทงยอง x สหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลี โดยมีบริษัทส่งออกจากเมืองทงยองเข้าร่วมถึง 12 แห่ง

สหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลี (National Federation of Fisheries Cooperatives)และเทศบาลเมืองทงยองร่วมกันจัดงานชิมอาหาร “พรีเมี่ยม ทงยอง ซีฟู้ด ไนท์ ”(Premium Tong-YEONG Seafood Night) ที่โรงแรมสุดหรูระดับโลกในเครือโรงแรมฮิลตัน อย่าง โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ


สหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลี และเทศบาลเมืองทงยองได้ทำสัญญาความร่วมมือ (MOU) ร่วมกันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของเกาหลีเข้าสู่ตลาดไทย และโครงการแรกที่ได้จัดร่วมกัน ก็คืองานชิมอาหารในครั้งนี้ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จลุล่วงไปอย่างงดงาม โดย ในงานนี้ มีบริษัทส่งออกที่ได้รับการคัดเลือกจากเมืองทงยองเดินทางมาเข้าร่วมด้วยตนเองถึง 9 จาก 12 แห่ง ส่วนบริษัทส่งออกอีก 3 แห่งก็ได้แสดงความกระตือรือร้นด้วยการส่งผลิตภัณฑ์ของตนมาร่วมจัดแสดง


ในบรรดาบริษัทส่งออกที่มาเข้าร่วมงาน  มีบริษัท Off-shore Trap  Fisheries Cooperative, Anchovy Suhyup และ Sea Squirt Hanging Culture Fisheries Cooperative Union ที่ประธานใหญ่ได้ให้เกียรติมาเข้าร่วมด้วยตนเอง ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและกระตือรือร้นที่มีต่อการขยายส่งออกได้เป็นอย่างดี วัตถุดิบของสหกรณ์ในเครือ เช่น ปลาไหล ปลาแอนโชวี่ สัปปะรดทะเลนั้นเป็น วัตถุดิบที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยในประเทศไทย แต่ก็ได้รับการจับจ้องเป็นที่สนใจจากบริษัทผู้ซื้อชาวไทย ในงานชิมอาหารครั้งนี้


กิจกรรมหลักของงานนี้ คงหนีไม่พ้นคอร์สอาหารที่รังสรรค์จากผลิตภัณฑ์ทางทะเลของเมืองทงยอง โดยเชฟ จุฑากร สุรรักษา (JUTHAKORN SURARAKSA)  ซึ่งเป็นเชฟหลักจากโรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ  ซึ่งเชฟ จุฑากร ได้ทำการปรุงอาหาร สไตล์ เวสเทิร์น ด้วยวัตถุดิบอาหารทะเลสดๆ เช่น ปลาไหล,ปลาแอนโชวี่ และ สับปะรดทะเล ที่ส่งตรงมาจากเมืองทงยอง บริษัทผู้ซื้อชาวไทยที่เข้าร่วมในวันนี้ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า หากผลิตภัณฑ์จากทะเลทงยองสามารถรักษาความสดใหม่ได้แบบนี้ ก็มีความสามารถในการแข่งขันเพียงพอที่จะแข่งขันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศแห่งอาหาร

สหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลีและเมืองทงยอง จะใช้กิจกรรมนี้เป็นจุดเริ่มต้น และวางแผนที่จะดำเนินกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยรวมถึงเพิ่มยอดขายให้สูงยิ่งขึ้น โดยอย่างแรกจะเริ่มด้วยงานประชุมปรึกษาด้านการค้า  ในวันที่ 18 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อโปรโมตความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์ทางทะเลทงยองอย่างเข้มข้นให้แก่ผู้ซื้อรายใหญ่ในกรุงเทพฯ


ศูนย์ส่งเสริมการค้าอาหารทะเลเกาหลีประจำกรุงเทพ ภายใต้สหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลี กล่าวว่า ในอนาคต “ประเทศไทยจะเป็นหัวสะพานเชื่อมตลาดอาเซียน” และ “มองว่าอาหารทะเลชั้นเลิศของเมืองทงยองจะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการขยายตลาดที่สำคัญเช่นนั้น“ ทั้งยังกล่าวเสริมอีกว่า "เราจะร่วมมือกับเมืองทงยองอย่างกระตือรือร้น เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์ทางทะเลของเกาหลีในประเทศไทย"

คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านเว็บไซต์ K-Seafood Trade  (www.k-seafoodtrade.k) และสามารถเข้าเยี่ยมชม ศูนย์ส่งเสริมการค้าอาหารทะเลเกาหลีประจำกรุงเทพ ภายใต้สหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลี (อาคารเอ็มไพร์ ทาเวอร์ /สาทร) หรือติดต่อทางอีเมล (kfishbkk@gmail.com) และหมายเลขโทรศัพท์ (02-057-4030) เพื่อรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเลของเกาหลีต่างๆ มายังประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น

รูปภาพธีมโดย mevans. ขับเคลื่อนโดย Blogger.