“คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล” มอบผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย มูลค่า 1.75 ล้านบาท แก่กลุ่มโรงแรม State Quarantine เพื่อสนับสนุนด้านสุขอนามัยของพนักงานและผู้เข้าพัก
เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยและขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันน้ำใจแก่ผู้ถูกกักกันเข้าพักสังเกตอาการโควิด-19 “คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชันแนล” ผู้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยระดับโลก นำโดย แอนดี้ แมคแนร์ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มประเทศอาเซียน ร่วมด้วย เจิดสาย สุขแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดอาเซียน ได้มอบผลิตภัณฑ์คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชันแนลที่มีความจำเป็นต่อสุขอนามัยส่วนบุคคลเพื่อยกระดับสุขอนามัย มูลค่ารวม 1,750,000 บาทแด่กลุ่มโรงแรมควบคุมโรคที่ภาครัฐจัดตั้งขึ้น โดยมี วิวรรณ วิชัยดิษฐ ผู้จัดการฝ่ายธุรการ โรงแรมบ้านไทยบูทีค และ พลอากาศตรี ภูริทัต จันทร์แก้ว ผบ. เหตุการณ์ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารจาก บริษัท คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ได้แก่ โยธนา อนันต์รัตนชัย หัวหน้าฝ่ายขายประจำภาคเหนือ, ปิยะพร ปฏิมาวิรุจน์ หัวหน้าฝ่ายขายประจำภาคใต้ ร่วมงานด้วย ณ โรงแรมเดอะภัทรา-พระรามเก้า และ โรงแรมบ้านไทยบูทีค
มร. แอนดี้ แมคแนร์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มประเทศอาเซียน คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล (ASEAN GM) กล่าวว่า “ด้วยเป้าหมายของทาง คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชันแนล คือการสร้างสุขอนามัย ความปลอดภัย และความมีประสิทธิผลที่ดีให้แก่สถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่ทำงาน เราจึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อการรักษาสุขอนามัยของผู้ที่ต้องกักกันตน จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ให้แก่โรงแรม State Quarantine สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล ให้การสนับสนุนมูลค่ารวม 1.75 ล้านบาท ได้แก่ กระดาษเช็ดมือสก๊อตต์ AIRFLEX ที่มีคุณสมบัติพิเศษคือมีเนื้อกระดาษที่เหนียวไม่ขาดง่าย และยังซึมซับน้ำได้ดีเยี่ยม แนะนำให้ใช้ร่วมกับการล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และเช็ดมือให้แห้งด้วยกระดาษเช็ดมือสก๊อตต์ AIRFLEX และ “ผ้าไมโครไฟเบอร์ WypAll” สำหรับเช็ดทำความสะอาดทั่วไป โดยใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดหรือแอลกอฮอล์เช็ดหลังการสัมผัสพื้นผิวและสิ่งของต่างๆ ที่อาจมีเชื้อไวรัส เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อจากการติดเชื้อรวมถึงการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยทางโรงแรมจะเตรียมผลิตภัณฑ์ไว้ประจำที่ห้องพักให้เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอด 14 วัน
ไม่เพียงแค่ “ผู้ถูกกักกันตน” เท่านั้นที่ต้องดูแลเรื่องความสะอาดส่วนบุคคลเป็นพิเศษ แต่ “พนักงานโรงแรม” ที่ปฏิบัติงานก็มีความจำเป็นต้องดูแลด้านสุขอนามัยไม่แพ้กัน เพราะบุคคลกลุ่มนี้มีโอกาสสัมผัสกับผู้เสี่ยงต่อโรค ต้องเฝ้าระวังตนเอง จึงต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายสู่ภายนอก
ทางด้าน วิวรรณ วิชัยดิษฐ ผู้จัดการฝ่ายธุรการ โรงแรมบ้านไทยบูทีค กล่าวว่า การสนับสนุนครั้งนี้ของทาง คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของโรงแรมได้มาก เพราะงบสนับสนุนจากรัฐบาลไม่เพียงพอทั้งหมด เนื่องจากเราหาจัดสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนความปลอดภัยทุกอย่างๆ เต็มที่เพื่อที่จะทำให้ผู้ถูกกักกันมีความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจตลอดระยะเวลา 14 วันที่พักกับทางโรงแรม เช่น เรื่องอาหารที่มีเมนูหลากหลายไม่จำเจ อุปกรณ์ในห้องพักก็เลือกใช้ของดีมีคุณภาพ เป็นต้น จริงๆ โรงแรมเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ “คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล” มาตลอด จึงทำให้เรารู้จักและมั่นใจในคุณภาพดีอยู่แล้ว รู้สึกภูมิใจค่ะที่ได้เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่มีค่าที่ได้ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน
“ทางโรงแรมเรามีกิจกรรมให้ผู้กักตัวได้ร่วมกิจกรรมกันภายใต้แคมเปญ “กักตัวไม่กลัวเหงา” เช่น ไลฟ์โยคะ นักร้องจิตอาสามาไลฟ์ร้องเพลงสด โดยเรามี “ไลน์กลุ่ม” ไว้สื่อสารและส่งข่าวสารถึงกัน
เมื่อมีองค์กรหรือจิตอาสามาร่วมสนับสนุนสิ่งของ เราก็จะมีการแบ่งปันไปยังชุมชนข้างเคียง เนื่องจากการเป็นโรงแรม State Quarantine จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากชุมชน คนที่เข้ากักตัวที่นี่ส่วนใหญ่มาจากประเทศมุสลิม ทำให้ได้รับการต้อนรับและมีการส่งกำลังใจจากคนในชุมชนเป็นอย่างดี เพราะเขาก็จะได้รับประโยชน์ตรงที่จะมีการสั่งซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันจากร้านค้าในย่านนี้” วิวรรณ กล่าว
ในขณะที่ทั่วโลกยังคงตอบสนองต่อวิกฤต COVID-19 และอุตสาหกรรมโรงแรมได้รับผลกระทบในวงกว้าง เราต้องการให้ธุรกิจโรงแรมของไทยได้ตระหนักว่า คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล จะเป็นองค์กรที่อยู่เคียงข้างพร้อมสนับสนุนช่วยเหลือทั้งในปัจจุบันและในอนาคต” มร. แมคแนร์ กล่าวเสริม
ไม่มีความคิดเห็น