“ไอ.พี. วัน” พลิกโฉมสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบด้วยโซลูชั่นจากเอสเอพี พร้อมสยายปีกลุยตลาดอาเซียน
· ไอ.พี. วัน ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศเริ่มต้นใช้งานโซลูชั่นเอสเอพีใหม่ทั่วทั้งองค์กร เตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
· โซลูชั่นของเอสเอพี จะช่วยปรับปรุงการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ของ ไอ.พี. วัน เพื่อให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
· โซลูชั่นของเอสเอพี จะช่วยปรับปรุงการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ของ ไอ.พี. วัน เพื่อให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 2 ธันวาคม 2564 – บริษัท ไอ.พี. วัน จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้า, ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม และ ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ชั้นนำของประเทศไทยได้ประกาศความร่วมมือกับ เอสเอพี บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์และประกาศความพร้อมในฐานะองค์กรดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบพร้อมเริ่มใช้งานโซลูชั่นของเอสเอพีทั่วทั้งองค์กรอย่างเป็นทางการเพื่อขับเคลื่อนการขยายธุรกิจและการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน
ไอ.พี. วัน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 โดยเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้แบรนด์ ไฮยีน, วิกซอล, วิซ, แดนซ์, โฟกัส และไอวี่ ที่ผ่านมาแม้องค์กรจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่บ้าง แต่ยังประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ธุรกิจเติบโตและขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ในตลาด CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และจีน ได้ ซึ่งในขณะที่ธุรกิจกำลังขยายตัว ไอ.พี. วัน ต้องการพลิกโฉมองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลและยกเครื่องอัปเกรดระบบการจัดการธุรกิจ เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกันและจัดการธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น โดยต้องการใช้ข้อมูลเป็นตัวแปรหลัก ขับเคลื่อนองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในระดับภูมิภาค
ไอ.พี. วัน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 โดยเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้แบรนด์ ไฮยีน, วิกซอล, วิซ, แดนซ์, โฟกัส และไอวี่ ที่ผ่านมาแม้องค์กรจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่บ้าง แต่ยังประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ธุรกิจเติบโตและขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ในตลาด CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และจีน ได้ ซึ่งในขณะที่ธุรกิจกำลังขยายตัว ไอ.พี. วัน ต้องการพลิกโฉมองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลและยกเครื่องอัปเกรดระบบการจัดการธุรกิจ เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกันและจัดการธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น โดยต้องการใช้ข้อมูลเป็นตัวแปรหลัก ขับเคลื่อนองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในระดับภูมิภาค
นางสาวสิรินารถ ธเนศวรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงาน Corporate Services บริษัท ไอ.พี.วัน จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงมีการแข่งขันสูงมาก การดำเนินการทางธุรกิจที่รวดเร็วและคล่องตัวเท่าทันตลาดจึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าธุรกิจนั้นจะรอดหรือร่วง เราจึงมองหาเทคโนโลยีที่จะสามารถช่วยนำข้อมูลที่มีอยู่แล้วในองค์กรมาสร้างเป็นข้อมูลเชิงลึก หรือ อินไซต์ เพื่อนำมาสร้างนวัตกรรมและช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งท้ายสุดแล้ว เรามองว่าความสามารถจากเทคโนโลยีจะช่วยผลักดันให้เราขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนได้อย่างรวดเร็ว”
ทั้งนี้ นางสาวสิรินารถ ยังได้กล่าวถึงความท้าทายที่ธุรกิจต้องประสบว่า "สิ่งหนึ่งที่เรามองว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายคือ การนำข้อมูลการขายที่มีอยู่แล้วมาผันเป็นข้อมูลเชิงลึกให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจเป็นอย่างมาก การจัดระเบียบข้อมูลการขายจากพนักงานขายทั่วประเทศ ให้มีมาตรฐาน ทันสมัย และจัดการได้ง่าย เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับองค์กรได้”
“เราจึงได้ตัดสินใจที่จะปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เป็นดิจิทัล ปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจของเรา และลดการใช้แรงงานคน โดยอัปเดตการใช้โซลูชั่นของเอสเอพีตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาโซลูชั่นของเอสเอพี ช่วยทำให้กระบวนการทางธุรกิจของเราได้มาตรฐาน เป็นไปตามกฎระเบียบที่แตกต่างกันในหลายประเทศ และง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ข้อมูลการขายที่ได้ถูกรวบรวมและวิเคราะห์เป็นอินไซต์ จะมีส่วนช่วยให้ทีมการตลาดและการขายของเราสามารถพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ทีมผู้บริหารของเราสามารถวิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจและพัฒนากลยุทธ์สำหรับการขยายองค์กรได้ดียิ่งขึ้น” นางสาวสิรินารถ กล่าวเสริม
ไอ.พี. วัน ได้ใช้งานโซลูชั่นต่าง ๆ ของเอสเอพี ประกอบด้วย SAP S/4HANA, SAP BW/4HANA, SAP iRPA, OpenText SAP โดย SAP S/4HAHA ชุดซอฟต์แวร์ ERP อัจฉริยะช่วยให้ ไอ.พี. วัน เห็นภาพรวมของธุรกิจและสามารถตัดสินใจทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ได้ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จาก SAP BW/4HANA จะทำให้ ไอ.พี. วัน สามารถพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สู่ตลาดได้ ในขณะที่ SAP iRPA เข้ามาช่วยลดการทำงานแบบแมนนวลที่ปกติพนักงานหลังบ้านต้องรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการขายจากพนักงานขายกว่า 500 รายทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะใช้โซลูชั่น Qualtrics ในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการับฟังฟีดแบ็ค รวมถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า
ทั้งนี้ นางสาวสิรินารถ ยังได้กล่าวถึงความท้าทายที่ธุรกิจต้องประสบว่า "สิ่งหนึ่งที่เรามองว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายคือ การนำข้อมูลการขายที่มีอยู่แล้วมาผันเป็นข้อมูลเชิงลึกให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจเป็นอย่างมาก การจัดระเบียบข้อมูลการขายจากพนักงานขายทั่วประเทศ ให้มีมาตรฐาน ทันสมัย และจัดการได้ง่าย เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับองค์กรได้”
“เราจึงได้ตัดสินใจที่จะปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เป็นดิจิทัล ปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจของเรา และลดการใช้แรงงานคน โดยอัปเดตการใช้โซลูชั่นของเอสเอพีตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาโซลูชั่นของเอสเอพี ช่วยทำให้กระบวนการทางธุรกิจของเราได้มาตรฐาน เป็นไปตามกฎระเบียบที่แตกต่างกันในหลายประเทศ และง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ข้อมูลการขายที่ได้ถูกรวบรวมและวิเคราะห์เป็นอินไซต์ จะมีส่วนช่วยให้ทีมการตลาดและการขายของเราสามารถพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ทีมผู้บริหารของเราสามารถวิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจและพัฒนากลยุทธ์สำหรับการขยายองค์กรได้ดียิ่งขึ้น” นางสาวสิรินารถ กล่าวเสริม
ไอ.พี. วัน ได้ใช้งานโซลูชั่นต่าง ๆ ของเอสเอพี ประกอบด้วย SAP S/4HANA, SAP BW/4HANA, SAP iRPA, OpenText SAP โดย SAP S/4HAHA ชุดซอฟต์แวร์ ERP อัจฉริยะช่วยให้ ไอ.พี. วัน เห็นภาพรวมของธุรกิจและสามารถตัดสินใจทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ได้ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จาก SAP BW/4HANA จะทำให้ ไอ.พี. วัน สามารถพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สู่ตลาดได้ ในขณะที่ SAP iRPA เข้ามาช่วยลดการทำงานแบบแมนนวลที่ปกติพนักงานหลังบ้านต้องรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการขายจากพนักงานขายกว่า 500 รายทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะใช้โซลูชั่น Qualtrics ในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการับฟังฟีดแบ็ค รวมถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า
นายนพดล เจริญทอง ผู้อำนวยการธุรกิจทั่วไปสำหรับประเทศไทยและตลาดเกิดใหม่ เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า “ที่ผ่านมา เราได้เห็นเทรนด์ของการที่บริษัทด้านสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มปรับใช้งานเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ ๆ มากขึ้น ไอ.พี. วัน เป็นหนึ่งในลูกค้าหลายพันรายในประเทศไทยที่หันมาใช้งาน เอสเอพี และได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของเราทั้งในด้านการสร้างข้อมูลเชิงลึก การขับเคลื่อนนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ ไอ.พี. วัน ในการสร้างกลยุทธ์ในการทำ Digital Transformation โดยใช้โซลูชั่นของเอสเอพี ซึ่งเราหวังว่าในอนาคตโซลูชั่นต่างๆ ของเราจะช่วยต่อยอดการสร้างประสบการณ์ผู้บริโภคกับแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมัดใจผู้บริโภค”
ไม่มีความคิดเห็น